วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

หวย



เรื่องหวยนี้ นิยมเล่นกันมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เพราะเป็นช่องทางเพิ่มรายได้โดยลงทุนไม่มาก แต่ได้รับผลตอบแทนสูงหากโชคดีถูกรางวัล  การซื้อหวยเพื่อเสี่ยงโชคเป็นครั้งคราว เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องเสียหาย เว้นแต่จะเล่นจนขาดสติ ถึงขั้นทุ่มหมดหน้าตัก กู้หนี้ยืมสินมาเล่น หรือวัน ๆ ไม่สนใจคิดเรื่องทำมาหากิน เอาสติปัญญาไปจินตนาการถึงเลขหวย แบบนี้ สุดท้ายก็นำมาซึ่งความเดือดร้อน ทั้งแก่ตนเองและครอบครัว

ภาพถ่าย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ ราวปี พ.ศ. 2502
ถ่ายโดย Michael Wolgensinger
ตีพิมพ์ในหนังสือชื่อ Siam. Pays des merveilles
ผู้เขียนคือ Rudolf Wening และ A.F. Somm
จัดพิมพ์โดย Artis-Brussels ในปี ค.ศ. 1959

เรื่องหวยกับพระมักจะเกี่ยวข้องกัน เชื่อกันว่า เลขหวยที่จะออกรางวัลนั้น ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ผู้ที่ทรงอภิญญาย่อมสามารถมองเห็นตัวเลขล่วงหน้าได้ แต่บอกตรง ๆ ไม่ได้ ได้แต่บอกใบ้ให้ เพราะโชคลาภเหล่านี้เป็นเรื่องของวาสนาบารมีของแต่ละบุคคลเป็นราย ๆ ไป  ญาติโยมจำนวนไม่น้อย เมื่อไปทำบุญที่วัดแล้ว ก็มักถือโอกาสขอของดีบ้าง ขอหวยบ้าง จึงมีเรื่องเล่าสนุก ๆ เกี่ยวกับพระและหวยให้ได้ยินอยู่เสมอ ๆ  แม้ในอดีต ก็มีเรื่องเล่ากันว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม เคยใบ้หวยสงเคราะห์ชาวบ้าน ถูกกันทั่วบ้านทั่วเมือง

พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
วัดท่าุซุง จังหวัดอุทัยธานี

พระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ท่านเล่าว่า เมื่อครั้งท่านอยู่กับหลวงพ่อจง ที่วัดหน้าต่างนอกนั้น  มีอยู่วันหนึ่ง ชาวพระนครเขานำผ้าป่ามาทอดถวายหลวงพ่อจง ดูเหมือนว่าคราวนั้นจะได้เงินหมื่นกว่าบาท เขาเช่าเรือ บ.ข.ส. ของบริษัทสุพรรณขนส่ง มาจอดไว้หน้าท่า ความจริงหลวงพ่อจงไม่ได้ลงมาท่าเรือ และจากกุฏิของท่านก็มองไม่เห็นเรือ  เวลาเขาทอดผ้าป่าเสร็จ ส่วนใหญ่ก็อยากเห็นผลบุญในชาติปัจจุบัน ก็เลยขอหวยหลวงพ่อจง หลวงพ่อท่านตอบว่าไม่มีหวยหรอก ตั้งแต่ฉันเกิดมานี่ พ่อแม่ฉันไม่ได้แจกหวยมาให้เป็นมรดก เวลาที่มาบวช พระอุปัชฌาย์ก็ไม่ได้ให้หวยไว้เป็นมรดก แต่ว่า ฉันเห็นเรือ บ.ข.ส. มาตายอยู่หน้าวัดลำหนึ่ง ก็ไปเอาที่เรือ บ.ข.ส. สิ ท่านพูดเท่านั้น  คณะผ้าป่าก็ลากลับด้วยความดีใจ ถึงวันหวยออก ปรากฏว่าเลขท้ายสามตัวของเรือ ตรงกับรางวัลที่ 1 พอดี ไม่ต้องกลับ

เรื่องต่อมา.. ผู้หญิงคนหนึ่ง แกมีลูกมาก ตั้ง 7-8 คน สามีตาย แกก็รับภาระเลี้ยงลูก เป็นคนจน ไร่นาไม่มี ต้องรับจ้างเขา น่าเห็นใจมาก วันหนึ่งแกมาหาหลวงพ่อจง บอกว่าเวลานี้เดือนสิบแรม ๆ ใกล้จะเดือนสิบเอ็ด ทุนรอนก็หมด จะเลี้ยงลูกเต้าก็ไม่มีทุน เงินที่จะซื้อข้าวก็ไม่มี ข้าวใหม่ยังไม่ออก ข้าวเก่าก็หมดไป แกมาขอหวยหลวงพ่อจง บอกฉันขอหวยสักคราว ขอหลวงพ่อให้ให้ถูกด้วย สตางค์ฉันมีอยู่ไม่มาก หลวงพ่อจงสงสาร เลยเขียนเลขให้สามตัว บอกว่าเอาไปเล่นคนเดียวนะ อย่าให้คนอื่นเขา จะได้เอาเงินไปเลี้ยงลูก พอแกกลับไปแล้วเห็นจะนึกขึ้นมาได้ว่า ผู้หญิงคนนี้แกมีลาภไม่มาก หลวงพ่อจงก็ลงเรือพายไปเองคนเดียว ไปถึงหน้าบ้านก็เรียก อีหนูเอ้ย หวยที่หลวงพ่อให้น่ะ เอ็งเล่นแล้วหรือยัง ผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่า ฉันไปหาหลวงพ่อกลับมายังไม่ว่าง ต้องหาอาหารเลี้ยงลูก ยังไม่ได้ซื้อ ตั้งใจว่าจะซื้อในวันรุ่งขึ้น หลวงพ่อท่านก็บอกว่าดีแล้วลูก คราวนี้ลาภของเอ็งมีไม่มากนะลูกนะ ถ้าจะซื้อละก็ซื้ออย่าให้เกิน 5 บาทนะ ถ้าเกิน 5 บาทมันเกินวาสนาบารมี ไม่ถูกหรอก  หญิงคนนั้นก็รับคำแล้วก็กราบท่าน ท่านก็สั่งว่า อย่าไปบอกใครเขานะ เลขนี้บอกใครเขาไม่ได้ มันเป็นลาภของเอ็งคนเดียว แล้วเล่นได้เพียง 5 บาทเท่านั้น

ปรากฏว่าเวลาหวยออก ผู้หญิงคนนั้นถูกพอดี ก็มารายงานให้ท่านทราบ เอาเงินบางส่วนมาถวายท่าน ท่านบอกไม่ต้อง ๆ เอ็งตั้งใจมาขอหวยข้า จะเอาเงินไปเลี้ยงลูก ก็เอาเงินไปเลี้ยงลูกเถอะไป กว่าน้ำจะยุบ ข้าวใหม่จะออกมันก็อีกนาน เอาไปทำทุนเข้าไว้ แล้วก็อย่าพูดไปนะว่าเราถูกหวย ประเดี๋ยวใครเขาจะมาแย่งเอา เรื่องก็มีเท่านี้

หลวงพ่อจง พุทฺธสโร
วัดหน้าต่างนอก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เรื่องการให้หวยนี้ หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านบอกว่า พระที่ได้ทิพจักขุญาณ นอกจากจะรู้หวยได้ ยังรู้อีกว่า คนที่มาขอ จะถูกหรือไม่ถูก จะมีลาภหรือไม่มีลาภ รู้วาสนาบารมีของคนได้  บางท่านสงสัยว่า พระทำไมถึงไม่เล่นเอง อย่าลืมนะ การรู้หวยจะต้องตัดโลภะ คือตัดความโลภในจิตใจของตนออก ถ้ายังมีความโลภทะเยอทะยานอยู่ รู้ไม่ได้ แบบเดียวกับคนเห็นทรัพย์ใต้ดิน ถ้าอยากจะได้ทรัพย์นั้น ก็ไม่มีทางเห็นได้ แต่หากมีสัจจะในใจว่าจะไม่ไปรบกวนทรัพย์สินของเขา มันอยู่ที่ไหนก็จะเห็นได้ตามอัธยาศัย

ครั้งหนึ่งมีคนเล่นหวยจากสีกุกมาหาหลวงพ่อจง ขอหวยสามตัว ตั้งใจจะซื้อเลขหวยที่หลวงพ่อจงให้สัก 200 บาท เพื่อนำเงินไปบวชลูกชาย หลวงพ่อจงบอกว่า ให้ไปก็ไม่เล่น คนขอก็บอกว่าเล่นขอรับ ท่านก็บอกว่า ถึงให้ไปก็ไม่ซื้อหรอก แกยังไม่มีลาภ แกก็บอกว่าขอให้หลวงพ่อให้ก็แล้วกัน ผมต้องซื้อแน่ หลวงพ่อท่านก็ยืนยันว่าตาคนนี้ไม่ซื้อ  หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านนั่งอยู่ที่นั้น ก็พนมมือกราบหลวงพ่อจง เรียนท่านว่า หลวงพ่อให้ไปเถอะขอรับ เขาจะซื้อหรือไม่ก็เป็นเรื่องของเขา เพราะตั้งใจจะไปทำบุญ ท่านก็มองหน้า แล้วก็บอกว่า ให้ได้แต่เขาไม่ซื้อหรอก คนนี้ยังไม่มีลาภ เขาก็ถามว่าเลขอะไร ท่านก็เขียนให้สามตัว แล้วท่านบอกว่าไม่ต้องกลับนะ หวยรางวัลที่ 1 คราวนี้ออกตามนี้ ตาคนนั้นได้แล้วก็เอาใส่กระเป๋าไป หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านก็ขอลอกเขาไว้ ด้วยอยากจะรู้ว่าหวยจะออกจริงตามนั้นไหม

เมื่อเวลาหวยออกจริง ๆ ตรงเผงไม่ต้องกลับ ก็เลยแวะไปสีกุกเพื่อฟังข่าวว่าตาคนนั้นแกจะรวยสักเท่าไหร่  ปรากฏว่า เป็นไปตามที่หลวงพ่อจงพูด แกไม่ได้ซื้อหวยของหลวงพ่อจง ลืมเลข ไปเล่นหวยอาจารย์อื่นเสียเพลินไป หมดไปหลายร้อยบาท แกเขียนไว้แล้ว เลขของหลวงพ่อจงจะซื้อ 200 บาท แต่ลืมหยิบออกมา พอหวยออกแกก็ไม่ถูก ไปเห็นเลขของหลวงพ่อจงเขียนทิ้งไว้ในกระเป๋า ไม่ได้ซื้อ เสียใจวิ่งเข้าห้อง คว้าปืนจะยิงตัวเอง ชาวบ้านต้องช่วยกันห้าม

หลวงพ่อเขียน ธมฺมรกฺขิตฺโต
วัดสำนักขุนเณร อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร

หลวงพ่อเขียน ธมฺมรกฺขิตฺโต วัดสำนักขุนเณร อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร เป็นพระเถระอีกรูปหนึ่งที่กล่าวขานกันมากว่า ท่านรู้หวยได้จริง   หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านเคยเดินทางไปที่วัดที่อำเภอบางมูลนาก หวังจะไปลองดีกับท่าน วันนั้นเป็นวันหวยออกพอดี มีวิทยุกระเป๋าหิ้วชนิดแบตเตอรี่ก้อนเบ้อเร่ออยู่หนึ่งเครื่องถือติดมือไปด้วย

หลวงพ่อเล่าว่า ขณะที่ไปถึง มีคนนั่งล้อมหลวงพ่อเขียนอยู่ประมาณสัก 200 คน พวกนี้มาขอหวยทั้งนั้น เป็นเวลาบ่ายประมาณสักสี่โมงเศษ ๆ เวลานั้นหวยออกเวลาห้าโมงเย็น พอขึ้นไปพ้นบันได หลวงพ่อเขียนมองมาท่านก็พูดดัง ๆ ว่า วันนี้คนดี ๆ เขามาหาเราน่อ เขาจะลองดีเราน่อ แต่ว่าเราก็มีดีอวดเขาน่อ ท่านใช้คำลงท้ายว่าน่อ 

คุยกันไปได้ครู่หนึ่ง ใกล้เวลาหวยออก ท่านถามว่าจะเอาเลขหรือยัง บอกเอาขอรับ ท่านถามว่าจะเอาเลขรางวัลที่เท่าไหร่ ก็เลยกราบเรียนว่ารางวัลที่ 1 เอา 3 ตัว ท่านบอกว่ารางวัลที่ 1 มันมี 6 ตัว คุณเอา 3 ตัวมันไม่ครบ ท่านก็หันหลังไปแล้วก็เขียนเลข 6 ตัว แล้วท่านถามว่า เลขท้าย 3 ตัว หมุน 4 ครั้งเอาไหม ก็กราบเรียนท่านว่า ให้ได้ก็ดีขอรับ ท่านก็เขียนเลขท้าย 3 ตัวหมุน 4 ครั้ง เขียนมา 4 ชุด แถมเลขท้าย 2 ตัวให้อีกชุดหนึ่ง แล้วท่านก็ถือเลขไว้ ยังไม่กางออก ท่านถามชาวบ้านว่าเวลานี้เล่นทันไหม ชาวบ้านบอกว่าใกล้แล้วขอรับ เจ้ามือเขาไม่รับซื้อ ท่านก็เลยประกาศว่า คนที่นั่งอยู่ที่นี่ทั้งหมดนะ ใครจะลุกไปที่อื่นไม่ได้ ถ้าลุกไปตาแตก เพียงเท่านี้ชาวบ้านก็นั่งนิ่งเพราะเกรงวาจาศักดิ์สิทธิ์ของท่าน

พอหวยใกล้จะออก ท่านก็ถามว่ามีวิทยุมาไม่ใช่หรือ ท่านก็เอาแผ่นกระดาษวางลง กางเลขให้ดูว่านี่รางวัลที่ 1 นี่เลขท้าย 3 ตัวหมุน 4 ครั้ง นี่เลขท้าย 2 ตัว พอลอตเตอรี่ออก เลขของท่านตรงเผงไม่ต้องกลับ ไม่มีพลาดเลย ก็เลยกราบขอขมาท่าน เกรงจะเป็นโทษ  ท่านก็บอกว่าไม่ต้องกลัวหรอก ไม่มีโทษ เธอก็ไม่เล่นหวยใช่ไหม ฉันจะเขียนให้ไปดูเล่นสัก 20 งวดข้างหน้า แล้วถ้าหากเธออยากรวย งวดที่ 21 มาเอาจากฉันนะ ฉันจะให้ แล้วท่านก็เขียนอย่างไม่ต้องคิด หยิบกระดาษมาได้ก็เขียนเลย เขียน ๆ ๆ แล้วก็พับส่งมาให้ บอกใส่กระเป๋าเสีย ประเดี๋ยวไอ้ 2 คนมันจะขอดู ท่านก็หันไปทาง 2 คนที่ไปด้วย บอกเอ็งอย่าดูของเขานะ เอ็งดูเมื่อไร ตาแตกเมื่อนั้น ชาวบ้านก็มาสะกิดเจ้าสองคนบอกว่า ดูไม่ได้หรอก ดูก็ตาแตก ท่านพูดอย่างไรเป็นอย่างนั้น วาจาท่านศักดิ์สิทธิ์

หลวงพ่อฤาษีฯ บอกว่า เลขหวยที่หลวงพ่อเขียนท่านให้มา 20 งวด รางวัลที่ 1 เลข 6 ตัว ตรงเผงทุกงวด แต่รับปากกับหลวงพ่อท่านไว้แล้วว่าจะไม่เล่น ก็ไม่เล่น เอามาดูเฉย ๆ

หลวงพ่อเขียน ธมฺมรกฺขิตฺโต วัดสำนักขุนเณร เป็นพระวาจาสิทธิ์  เมื่อท่านมรณภาพในปี พ.ศ. 2507 มีอายุถึง 108 ปี

หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม

พระผู้ใหญ่รูปหนึ่งเล่าว่า หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ก็เคยใบ้หวย เรื่องมีอยู่ว่า มีญาติโยมกลุ่มหนึ่งเช่าเหมารถไปกราบหลวงปู่เพื่อหวังจะได้เลขเด็ด หลวงปู่ท่านก็ให้การต้อนรับตามปรกติ พอได้จังหวะ หัวหน้ากลุ่มก็เลียบ ๆ เคียง ๆ ขอเลขเด็ด หลวงปู่ก็พูดว่า "จะไปยากอะไร อยู่ที่ตูดของพวกสูนั่นแหละ นั่งทับกันอยู่ก็ยังไม่รู้ กลับไปดูเอาเองก็แล้วกัน"

ญาติโยมคณะนั้นต่างก็กระหยิ่มยิ้มย่อง แต่ละคนก็ไม่เคยดู "ตูด" ของตัวเอง จึงพากันหาสถานที่เหมาะ จอดรถแล้วพากันลง ชายแยกไปเฉพาะชาย หญิงแยกไปเฉพาะหญิง พิจารณาดูตูดของกันและกันอย่างละเอียด เลขเด็ดจะไปอยู่ส่วนไหนนั้นไม่ทราบได้ แต่ที่แน่ ๆ เลขที่ออก คือเลขทะเบียนรถที่ทุกคนนั่งไปนั่นเอง

หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ท่านเป็นศิษย์รุ่นแรก ๆ ของพระอาจารย์ใหญ่ มั่น ภูริทตฺโต เป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่

มีผู้กล่าวว่า การถูกรางวัลสลากกินแบ่ง ร่ำรวยเงินทองได้มากมายนั้น เป็นสมบัติสวรรค์ หากชาติก่อนไม่เคยได้ทำบุญใส่บาตรฝากสวรรค์เอาไว้ อยู่ ๆ มาขอเบิกในชาตินี้ จะมีที่ไหนมาให้เบิก  ฟังดูแล้วก็น่าจะมีส่วนจริง ดังเรื่องที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังต่อไปนี้

ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์)
วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน

ศิษย์คนหนึ่งของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ทุกครั้งที่ไปวัดพระพุทธบาทห้วยต้มเพื่อกราบหลวงปู่ จะแวะจ่ายตลาดก่อนเข้าวัด หาซื้ออาหารแห้ง ผักผลไม้ต่าง ๆ ติดมือเข้าโรงครัวของวัดเสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่ง พักอยู่ที่วัดนานหลายวัน ปัจจัยที่นำติดตัวไปเริ่มร่อยหรอ แทบไม่พอใช้จ่ายเป็นค่าอาหาร จึงไปกราบหลวงปู่ บอกกับท่านตรง ๆ ว่า ช่วยลูกด้วย ปัจจัยของลูกใกล้จะหมดแล้ว ไม่พอค่าอาหาร ไม่พอค่าเดินทาง จะทำอย่างไรดี  หลวงปู่ท่านได้ฟังดังนั้น ก็หันไปหยิบธนบัตรใบละสิบบาท จากย่ามส่งมาให้หนึ่งใบ บอกสั้น ๆ ว่า "เอ้า..เอาไป"  ศิษย์ท่านนั้นรับธนบัตรมาด้วยความสงสัย ถามหลวงปู่ว่า ให้มาสิบบาทจะไปพอซื้ออะไรได้  คราวนี้หลวงปู่ท่านลุกขึ้นเพื่อเดินกลับเข้าห้องทำธุระ พลางเหลียวมาพูดว่า "ก็จะยุ่งยากอะไร เดี๋ยวอีกสองวัน ก็จะได้หัวร่อ ฮ่า ฮ่า แล้ว" 

เมื่อสองวันผ่านไป ถึงวันหวยออก ปรากฏว่ารางวัลเลขท้ายสองตัวคือ "55" ตรงกับเลขในธนบัตรฉบับที่หลวงปู่ยื่นให้ที่มีเลขธนบัตรลงท้ายด้วย "55" เช่นกัน  เมื่อคิดได้ว่า หลวงปู่อุตส่าห์ส่งลาภยื่นมาให้แล้ว แต่เราไม่ทันได้คิดเอง จึงได้แต่หัวเราะฮ่าฮ่า อยู่คนเดียวในใจเพราะไม่ได้ซื้อ นึกสมน้ำหน้าตัวเองว่ามีบุญ แต่กรรมบัง

หลังจากนั้นอีกประมาณสิบกว่าวัน ศิษย์ท่านนั้นได้เข้าไปกราบหลวงปู่อีกครั้ง หลวงปู่ถามว่า เป็นไง ได้หัวร่อ ฮ่า ฮ่า หรือยัง  ศิษย์จึงตอบไปว่า "หลวงปู่จะให้ลาภ ทำไมไม่บอกด้วย ลูกคิดไม่ทันก็เลยอด"

หลวงปู่ท่านฟังแล้วก็ยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร หยิบเหรียญมาให้สองเหรียญ เป็นเหรียญสิบบาทกับเหรียญห้าบาท บอกว่า "หลวงปู่ให้เป็นขวัญถุง เก็บไว้ให้ดี เงินจะได้ไม่ขาดกระเป๋า"

ลูกศิษย์ท่านนั้นรับเหรียญมาด้วยความดีใจ คิดว่าท่านเมตตาให้เงินขวัญถุง ไม่เฉลียวใจว่าท่านได้ให้ลาภอีกครั้งแล้ว เพราะอีกสามวันต่อมา รางวัลเลขท้ายสองตัวงวดนั้นคือ "15" เท่ากับมูลค่าของเหรียญทั้งสองอันที่รับมารวมกัน

ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ท่านเป็นเจ้าอาวาส วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน มรณภาพเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2543 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 อันเป็นวันวิสาขบูชา

คุณธรรมความดีของหลวงปู่ แผ่ขยายไปถึงชาวเขาตามแนวชายแดนพม่า พระรูปหนึ่งชื่อ "พระอนันตยา" อยู่ประเทศพม่า เป็นพระทรงอภิญญา  ท่านจะนำของมาทำบุญในเทศกาลสำคัญ ๆ ที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้มอยู่เสมอ โดยใช้เวลาเดินทางถึง 8 วัน นับเป็นความอุตสาหะอย่างยิ่ง เคยมีผู้กราบเรียนถามท่านถึงความอุตสาหะในข้อนี้ ท่านตอบว่า ต้องการมากราบครูบาวงศ์ เพราะท่านเป็นพระอริยสงฆ์ที่ประเสริฐ สมัยนี้จะหาพระสุปฏิปันโนเช่นนี้ไม่ได้ง่าย ๆ ใครได้มาฟังเทศน์ทำบุญ จะได้กุศลมหาศาล

หลวงปู่คำแสน คุณาลงฺกาโร
วัดป่าดอนมูล  อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่

หลวงปู่คำแสน คุณาลงฺกาโร วัดป่าดอนมูล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวยกย่องครูบาวงศ์ต่อหน้าศิษย์น้อยใหญ่ เมื่อครั้งที่ครูบาวงศ์นำผ้าป่าไปทอด หลวงปู่คำแสนถึงกับลงมารับ พร้อมกับแสดงความดีใจที่ได้พบ นิมนต์ให้ครูบาวงศ์นั่งบนอาสนะที่สูงกว่า ครูบาวงศ์ไม่ยอม เพราะเห็นว่าพรรษาของท่านน้อยกว่าและคุณธรรมก็น้อยกว่าหลวงปู่คำแสน แต่หลวงปู่คำแสนกลับตอบว่า "..หลวงพ่อวงศ์พรรษาน้อยกว่าก็จริง แต่ด้านคุณธรรมสูงกว่ามาก.." จึงไม่ยอมนั่งสูงกว่าครูบาวงศ์ เมื่อต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมนั่งสูงกว่าใคร บรรดาลูกศิษย์จึงยกอาสนะอีกตัวหนึ่งให้หลวงปู่คำแสนนั่งเพื่อให้เสมอกัน หลังจากหลวงปู่คำแสนนั่งลงแล้ว ได้บอกกับบรรดาลูกศิษย์ที่ติดตามไปว่า "..ลูกโชคดีนะ ที่ได้พบพระอริยสุปฏิปันโน ที่มีคุณธรรมสูงอย่างท่านครูบาวงศ์ ให้ปฏิบัติธรรมให้เก่งอย่างครูบาวงศ์นะ เพราะท่านเป็นพระกรรมฐานพิจารณากฎไตรลักษณ์ได้แล้ว ลูกต้องซักถามท่านให้มาก ๆ จะได้กุศลอันสูงส่งในชาตินี้.."

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
วัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา

เรื่องการรู้เลขหวยนี้ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา เล่าว่า คราวหนึ่ง เดินตามหลวงตาอ่อนไปบิณฑบาต เดินไป หลวงตาอ่อนก็เขียนเบอร์หวยใส่กระดาษแผ่นน้อย ๆ แจกให้ญาติโยม ใครมาใส่บาตรก็ให้ทุกราย ก็เลยถามหลวงตาอ่อนว่า "ไหน..ขอดูหน่อยน่า บอกเขาตัวไหนกันแน่" เมื่อเห็นแล้ว ในใจก็บอกกับตัวเองว่า เลขที่ว่ามันไม่ออกหรอก ก็เลยบอกกับหลวงตาอ่อนว่า "หลวงตาจะบอกเขาทั้งที ก็บอกให้มันถูก" แกชักโมโห ถามว่าแล้วมันจะออกตัวไหนล่ะ  หลวงพ่อพุธก็บอกว่า "มันจะออก 08 ต่อไปนี้บอกเขา 08 ไม่ต้องเขียนใส่กระดาษหรอก เปลืองกระดาษ ใครใส่บาตรก็บอกเขาเลย 08" ปรากฏว่าถึงวันหวยออก สายบิณฑบาตถูกรางวัลกันแทบจะทุกคน

อีกเรื่องหนึ่งที่หลวงพ่อพุธเล่าให้ฟัง มีหลวงพ่อองค์หนึ่ง เป็นสมภาร สร้างโบสถ์มาสิบกว่าปีไม่ยอมเสร็จเสียที พอเวลาไหว้พระสวดมนต์ ก็สวดอ้อนวอนขอสารพัด แล้วก็มาฝัน ได้เลข 25 จึงเรียกญาติโยมมาปรึกษาหารือว่า อยากจะขอเงินวัดไปซื้อ วัดมีเงินอยู่พันบาท  โยมก็กลัวว่า ถ้าเอาเงินที่มีอยู่พันบาทไปซื้อหวยหมด ถ้าไม่ถูกก็แย่ สมภารมีม้าตัวหนึ่ง ก็เลยเอาม้าไปจำนำ ได้เงินมา 500 บาท  คิดว่าถ้าหวยไม่ออกก็ให้ยึดม้าไปเสีย ถ้าออกก็จะเอาเงินมาไถ่คืน  สมัยนั้น เลขสองตัว ร้อยหนึ่งได้เจ็ดพันบาท ถ้าซื้อห้าร้อย ก็ได้ 35,000 บาท ภายหลังมาฝันอีก ไปซื้อ ทีนี้ถูกเป็นแสนเลย ฝันติดต่อกัน 5 งวด ท่านอธิษฐานจิตของท่านไว้ว่า ถ้าได้เงินสร้างโบสถ์พอแล้วจะหยุด พอได้ครบ 5 งวด เงินสร้างโบสถ์พอ ก็หยุด ไม่ฝันเลย  ทีนี้ชื่อเสียงมันโด่งดังไปแล้ว คนก็มารุมขอท่าน ท่านก็บอกว่า "โยมเอ๊ย เดี๋ยวนี้เงินสร้างโบสถ์มันพอแล้ว มันไม่ฝันแล้ว"


หลวงพ่อพุธบอกว่า "..หวยเป็นดอกไม้พญามาร ครูบาอาจารย์ท่านสอนไว้ มันมาหลอกให้เราเสียคน คนขายหวย ตำรวจรู้เข้าก็จับ คนซื้อก็จับ คนขายก็จับ มันเป็นสิ่งที่ผิดวินัยพระ พระไปเล่นหวยก็ผิดวินัย  พระบางรูปไปอวดอ้างว่าตัวรู้ตัวเห็น กลายเป็นอวดอุตริมนุสสธรรม ผิดหนักกว่าซื้อหวยอีก.."

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น