วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

'เลิกบุหรี่'...เรื่องท้าทายความสามารถผู้ติดบุหรี่


อีกไม่กี่วันนับจากนี้ ก็จะถึงวันที่ 31 พฤษภาคม ซึ่งองค์การอนามัยโลกกำหนดให้เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับท่านที่ยังติดบุหรี่อยู่ จะได้ใช้ช่วงเวลานี้ ใคร่ครวญพิจารณาว่า ควรจะทำร้ายตนเองและคนรอบข้างด้วยการสูบบุหรี่ต่อไปอีกหรือไม่ หรือเริ่มลงมือทำสิ่งที่ท้าทายความสามารถที่สุดในชีวิตของผู้ติดบุหรี่ คือ เลิกสูบบุหรี่อย่างถาวร
 
มโนปุพฺพงฺ คมา ธมฺมา มโนเสฏฐา มโนมยา
ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่ มีใจเป็นประธาน สำเร็จได้ด้วยใจ

การที่จะเลิกบุหรี่ให้สำเร็จได้นั้น ก่อนอื่น ผู้ติดบุหรี่ต้องมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะเลิกบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่มีฤทธิ์เสพติดสูง ผู้ที่สูบบุหรี่มานาน ร่างกายจะคุ้นเคยกับการได้รับสารเสพติดอยู่ตลอดเวลา เมื่อหยุดสูบก็จะเกิดอาการถอนยา จะเป็นในช่วงสัปดาห์แรกซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทรมานมาก อาการถอนยาที่ว่านี้คือ หาวนอน ง่วงนอนตลอดเวลา น้ำมูกน้ำตาไหล พูดเสียงอู้อี้เหมือนคนเป็นหวัด แขนขาไม่มีแรง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไม่มีสมาธิในการทำงาน สมองไม่ปลอดโปร่ง ไม่กระฉับกระเฉง หงุดหงิดง่าย ฯลฯ และอยากจะกลับไปสูบบุหรี่อีก

ผู้ที่ตั้งใจแน่วแน่ที่จะเลิกบุหรี่ ก็จะผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้และเลิกบุหรี่ได้ในที่สุด แต่หากจิตใจไม่เข้มแข็งพอ ก็จะกลับไปสูบใหม่ แล้วหาคำแก้ตัวให้กับตนเองได้สารพัด เช่น "ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้พยายามแล้ว” หรือ “ไว้รอช่วงโน้นช่วงนั้นค่อยเลิกดีกว่า ช่วงนี้งานเยอะ เลิกยาก” ฯลฯ อะไรทำนองนี้ เป็นต้น


การที่จะเลิกบุหรี่ได้สำเร็จหรือไม่นั้น จึงอยู่ที่ “ความตั้งใจ” ของผู้ติดบุหรี่เป็นสำคัญ ผู้ติดบุหรี่ต้องเลือก ว่าจะปล่อยชีวิตให้อยู่กับบุหรี่ไปเรื่อย ๆ หรือเลือกที่จะใช้ชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งพาบุหรี่ 

การใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องพึ่งพาบุหรี่นั้น นอกจากจะทำลายสุขภาพของผู้สูบและคนรอบข้างแล้ว ยังเป็นการดำเนินชีวิตที่ขาดอิสรภาพและน่ารำคาญเป็นอย่างยิ่ง ต้องอาศัยบุหรี่ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งกลับเข้านอน ไม่ว่าจะเป็นเวลาก่อนอาหาร หลังอาหาร ก่อนเข้าห้องน้ำ หลังเข้าห้องน้ำ ก่อนเริ่มทำงาน หลังจากเลิกงาน และแม้แต่ระหว่างเวลาทำงานก็ยังต้องหลบไปสูบบุหรี่ ก่อนจะขึ้นรถ ลงจากรถ ฯลฯ ไม่ว่าจะทำอะไร ที่ไหน เวลาใด ต้องหาโอกาสสูบบุหรี่อยู่ร่ำไป 

บางคนไปเที่ยวพักผ่อนริมทะเลหรือบนยอดดอย แทนที่จะไปสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด กลับไปสูดควันบุหรี่แทน บางคนไปออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา แต่หลังจากออกกำลังกายเสร็จก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า เพียงแค่หยุดสูบบุหรี่ สุขภาพก็ดีขึ้นแล้ว แต่ถ้ายังติดบุหรี่อยู่ ก็มองไม่เห็นประโยชน์อันใด ที่จะไปออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเลย

เรามาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเมื่อไม่ได้รับควันบุหรี่... 

ภายใน 2 ชั่วโมงแรกที่หยุดสูบบุหรี่
จะไม่มีนิโคตินหลงเหลืออยู่ในตัวอีกต่อไป แต่กว่าที่กากของนิโคตินจะถูกขจัดให้หมดสิ้นไป อาจกินเวลาถึงสองวัน

ภายใน 6 ชั่วโมง
อัตราการเต้นของหัวใจที่เคยถูกเร่งให้เต้นถี่กว่าปรกติก็จะเต้นช้าลง และยังทำให้ความดันโลหิตที่เคยสูงเกินปรกติ ค่อย ๆ ลดลงมาเล็กน้อย แต่กว่าที่ระดับความดันโลหิตจะลดลงถึงระดับที่ควรจะเป็น อาจต้องใช้เวลา 3 วันถึงหนึ่งเดือน ตามสภาพร่างกายของแต่ละคน

ภายใน 12-24 ชั่วโมง
ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่จับแน่นอยู่กับเม็ดเลือดแดงจะถูกขจัดออกไป ปอดจะกลับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนรู้สึกว่าอาการเหนื่อยหอบง่าย ๆ จะค่อย ๆ หายไป และกำลังวังชาดีขึ้น

หลายวันต่อมา
เสมหะที่สะสมอยู่ในปอดจะใสขึ้น แล้วในหลายสัปดาห์ต่อมา ท่านก็จะไอมันออกมาได้ ขนอ่อนที่บุผนังทางเดินหายใจซึ่งเป็นอัมพาตเพราะควันบุหรี่จะฟื้นคืนชีพเพื่อทำงานปัดกวาดสิ่งสกปรกในหลอดลม แต่กว่าที่ขนอ่อนนับล้าน ๆ เส้นเหล่านี้จะฟื้นคืนชีพได้สมบูรณ์ ต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือน

ภายใน 3 สัปดาห์
การทำงานของปอดจะดีขึ้น ทำให้สามารถออกกำลังกายได้มากกว่าครั้งที่ยังสูบบุหรี่อยู่

ภายใน 3 เดือน
ระบบการขจัดสิ่งสกปรกในปอดจะทำงานได้เป็นปรกติ ขณะเดียวกัน สำหรับผู้หยุดสูบบุหรี่ที่เป็นเพศชาย ในช่วงนี้เชื้ออสุจิจะกลับเคลื่อนไหวได้ใกล้เคียงกับสภาวะปรกติ และจำนวนเชื้ออสุจิก็เพิ่มขึ้นด้วย

ภายใน 5 ปี
อัตราการเสี่ยงต่อการเกิดอาการหัวใจขาดเลือดจะลดลงจนเกือบเท่ากับคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่

ภายใน 10-15 ปี
อัตราการเสี่ยงต่อการตายด้วยโรคร้ายต่าง ๆ ที่เกิดจากบุหรี่ รวมทั้งมะเร็งปอด จะมีความใกล้เคียงกับผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่


สรุปว่า ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเลิกบุหรี่ เพราะทันทีที่หยุดสูบบุหรี่ ร่างกายก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ผู้ที่ติดบุหรี่และเลิกสูบในทันทีนั้น อาจจะรู้สึกทรมานบ้างในช่วงแรกซึ่งเป็นระยะถอนยา แต่ขอให้ทราบเถิดว่า อาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เป็นเพราะร่างกายกำลังต่อสู้กับความเคยชินอันชั่วร้ายที่ฝังรากมานาน เป็นความท้าทายที่ต้องเอาชนะให้ได้

นอกจากความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะเลิกบุหรี่แล้ว คำแนะนำต่อไปนี้ จะช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้นและไม่ทรมานจนเกินไปนัก


- การเลิกบุหรี่ให้สำเร็จนั้น ควรจะหยุดสูบในทันที การพยายามเลิกบุหรี่โดยค่อย ๆ ลดปริมาณลงนั้น สุดท้ายจะกลับไปสูบมากขึ้นเช่นเดิม หรือสูบมากกว่าเดิมเสียอีก


- ในเวลาที่เกิดอาการอยากบุหรี่มาก ๆ การอาบน้ำหรือแช่น้ำ จะช่วยลดความอยากบุหรี่ลงได้


- ดื่มน้ำมาก ๆ น้ำจะช่วยลดความอยากบุหรี่ และช่วยขับสารพิษตกค้างออกจากร่างกาย


- รับประทานผักผลไม้มาก ๆ ผู้ที่ติดบุหรี่นั้น เวลาเข้าห้องน้ำทำกิจธุระก็ต้องสูบบุหรี่ไปด้วย พอหยุดสูบก็จะมีอาการท้องผูก จึงควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย มีใยอาหารมาก และรับประทานเนื้อสัตว์ให้น้อย


- ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาควบคู่ไปด้วย เป็นการหยุดพฤติกรรมในด้านลบ (คือหยุดสูบบุหรี่) และกระตุ้นพฤติกรรมในด้านบวกด้วย (คือออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา) วิธีนี้ช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้นอย่างเห็นผล ท่านผู้ปกครองที่มีบุตรหลานติดบุหรี่ สามารถช่วยให้เขาหยุดสูบได้โดยส่งเสริมให้เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ


- ให้กำลังใจตนเองตลอดเวลา พยายามนึกถึงตัวอย่างดี ๆ คนดี ๆ ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งพาบุหรี่ และยังต่อต้านการสูบบุหรี่ด้วยซ้ำไป


- นึกถึงครอบครัว นึกถึงคนที่รักเรา และคนที่เรารัก ท่านที่มีลูก วันข้างหน้าลูกก็คงติดบุหรี่เหมือนคุณพ่อคุณแม่ จะไปห้ามลูกก็ไม่ได้ในเมื่อคุณพ่อคุณแม่ยังสูบบุหรี่ให้เห็นเป็นตัวอย่าง

- การใช้หมากฝรั่งผสมสารนิโคติน อาจช่วยทุเลาความอยากบุหรี่ลงได้บ้าง แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง มิฉะนั้น พอเลิกบุหรี่ได้ จะไปติดหมากฝรั่งผสมสารนิโคตินแทน

ลำพัง หมากฝรั่งผสมสารนิโคตินไม่สามารถทดแทนบุหรี่ได้ เคี้ยวหมากฝรั่งแล้วก็อาจจะกลับไปสูบบุหรี่อีกเหมือนเดิม เพราะรสชาติของหมากฝรั่งอย่างไรเสียก็ไม่เหมือนรสชาติของบุหรี่ ความตั้งใจแน่วแน่ที่จะเลิกบุหรี่จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เลิกบุหรี่ได้ หมากฝรั่งเพียงช่วยทุเลาอาการอยากบุหรี่ลงเท่านั้น


- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ มีคนจำนวนไม่น้อยที่เลิกบุหรี่ได้แล้วกลับไปติดใหม่ มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ประสบปัญหาในหน้าที่การงาน ปัญหาครอบครัว ท้อแท้ เหงา ไม่มีเพื่อน ฯลฯ คิดไปเองว่าตนไม่มีคุณค่า จึงหันหน้าเข้าหาเหล้าเบียร์เพื่อให้ลืมปัญหาต่าง ๆ บางคนไม่มีปัญหา แต่ชอบสังสรรค์ ซึ่งโดยทั่วไปก็มักจะดื่มเหล้าดื่มเบียร์ด้วย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวกระตุ้นความอยากบุหรี่ได้เป็นอย่างดี ดื่มแล้วก็ทำให้อยากบุหรี่ สังสรรค์บ่อยเข้าก็กลับไปติดบุหรี่อย่างเดิม


- ช่วงสัปดาห์แรกที่เลิกบุหรี่ จะง่วงนอนตลอดเวลา มีหลายท่านที่ต้องการเลิกบุหรี่ แต่เลิกไม่ได้เพราะอาชีพการงานไม่อำนวย เช่น ต้องขับรถ ถ้าหยุดสูบบุหรี่จะขับไม่ได้เลย อันนี้เป็นเรื่องจริง เพราะการหยุดสูบบุหรี่ส่งผลต่อร่างกาย โดยเฉพาะในสัปดาห์แรกซึ่งจะเกิดอาการถอนยา บางคนต้องทำงานที่ใช้สมาธิ ใช้ความคิด ความละเอียดอ่อน พอหยุดบุหรี่ ก็ไม่มีสมาธิในการทำงาน สมองไม่ปลอดโปร่ง ทำให้งานผิดพลาดง่าย เรื่องนี้ก็น่าเห็นใจ หากเป็นไปได้ก็แนะนำให้หาช่วงจังหวะที่เหมาะ ลาหยุดพ่วงกับวันหยุดต่อเนื่อง จะได้มีเวลานานพอสำหรับระยะถอนยา เวลาง่วงก็หลับไปเลย ไม่กระทบกับงานที่ทำ หรืออาจจะไปปฏิบัติธรรม เป็นการบังคับตนเองไปในตัวไม่ให้แตะต้องบุหรี่ ก็เป็นวิธีการที่ดี หากไม่สามารถหยุดหรือลางานได้จริง ๆ ก็ควรงดเว้นงานหนักในช่วงที่เริ่มต้นเลิกบุหรี่ จะได้มีเวลาพักผ่อนนอนหลับมากขึ้น


- ผู้ที่ติดบุหรี่ เมื่อไม่ได้สูบ จะหงุดหงิดง่าย อารมณ์เสียโดยไม่มีเหตุผล เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด ใครทำอะไรให้ก็ไม่ถูกใจ คนในครอบครัว เพื่อนฝูง ญาติมิตรหรือคนรอบข้าง ควรให้กำลังใจ เข้าใจ ให้อภัยและไม่ถือโกรธ เพราะความจริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นเช่นนั้น แต่เป็นอาการปรกติของคนที่พยายามจะเลิกบุหรี่

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ติดบุหรี่ไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้ ก็เพราะเขาติดอยู่กับความเคยชินในการสูบบุหรี่เสียนานจนลืมไปว่า เขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ทำหน้าที่การงานต่าง ๆ ได้ และมีความสุขได้ โดยไม่ต้องสูบบุหรี่ หากเขาเพียงได้สัมผัสชีวิตใหม่ที่ไม่ต้องพึ่งพาบุหรี่แล้ว เชื่อว่าจะไม่มีใครหวนกลับไปสูบบุหรี่อีก และอีกจำนวนไม่น้อยที่จะพูดว่า รู้อย่างนี้เลิกสูบไปนานแล้ว


ป.ล. บทความนี้ เขียนขึ้นจากประสบการณ์จริงของผู้ที่ติดบุหรี่มานานร่วมยี่สิบปี และสูบจัดถึงวันละสองซองหรือสี่สิบมวนขึ้นไป ได้พยายามอยู่หลายครั้งกว่าจะเลิกได้สำเร็จ จากเดิมที่ร่างกายอ่อนแอและป่วยง่าย วิ่งระยะสั้น ๆ เพียงหนึ่งรอบสนามฟุตบอลก็เหนื่อยหอบ ปัจจุบัน สามารถวิ่งระยะทางสิบกิโลเมตรได้สบาย ๆ โดยไม่ต้องหยุดพักและไม่รู้สึกเหนื่อย เมื่อเลิกบุหรี่ได้ สุขภาพร่างกายก็ดีขึ้น โรคภัยไข้เจ็บไม่มาเบียดเบียน การทำงานต่าง ๆ ก็มีประสิทธิภาพ และสามารถนำร่างกายนี้ ไปทำคุณประโยชน์ช่วยเหลือผู้อื่นได้อีกด้วย คือการบริจาคโลหิต ซึ่งเมื่อครั้งติดบุหรี่จะไม่สามารถทำได้


สำหรับท่านที่ยังสูบบุหรี่อยู่ ขอเป็นกำลังใจให้ท่านเลิกได้สำเร็จในเร็ววัน จะได้มีสุขภาพดี มีสตางค์เก็บเยอะ ๆ ลองพิจารณาด้วยตัวท่านเอง ควันบุหรี่ที่ท่านสูบเข้าไปนั้น ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ ไม่มีสารอาหารที่ร่างกายจะนำไปใช้ประโยชน์ได้เลย มีแต่สารพิษล้วน ๆ แล้วท่านจะสูบเข้าไปทำไม ? ลำพังการดูแลร่างกายและถนอมอวัยวะส่วนต่าง ๆ เพียงเพื่อให้ใช้งานได้เป็นปรกติขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็เป็นเรื่องยากอยู่แล้ว ทำไมท่านยังต้องสูบเอาควันบุหรี่ซึ่งมีสารพิษสารพัดชนิดเพิ่มเข้าไปอีกเพื่อให้อวัยวะสำคัญต่าง ๆ ในร่างกายของท่านพังเร็วขึ้นด้วย?


บางท่านคิดไปเองว่า อายุมากแล้ว สูบมานานแล้ว เลิกไปก็เท่านั้น ความจริงแล้ว ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวัง ดูแลร่างกายให้มีสุขภาพดี เป็นผู้สูงอายุที่มีคุณค่า สามารถดูแลตนเองได้ ไม่ล้มเจ็บด้วยมะเร็งปอดหรือถุงลมโป่งพอง ท่านไม่ต้องอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับลูกหลานก็ได้ แต่อย่าให้ใครมาพูดว่า อยู่ไปก็เป็นภาระ


ทราบมาว่า ตามผับตามบาร์มีการชักนำด้วยวิธีการต่าง ๆ ให้วัยรุ่นหันมาลองสูบบุหรี่ ปัจจุบันวัยรุ่นชอบเที่ยวผับบาร์กันมาก อ่อนด้อยวุฒิภาวะ จึงติดง่ายทั้งเหล้าทั้งบุหรี่ นำความทุกข์ใจมาสู่คุณพ่อคุณแม่ ก็อยากจะเตือนท่านผู้ประกอบการที่มุ่งแต่แสวงหาผลกำไรโดยไม่คำนึงถึงคุณธรรมว่า เวรกรรมมีจริง ท่านทำกับลูกหลานเขาอย่างไร วันหนึ่งครอบครัวของท่านก็จะได้รับเช่นเดียวกัน ไม่รุ่นท่านก็รุ่นลูกรุ่นหลาน หว่านพืชเช่นไร ย่อมให้ผลเช่นนั้น


ขอเป็นกำลังใจให้ท่านเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ เพื่อตัวท่านเอง เพื่อครอบครัว เพื่อคนที่รักท่าน และเพื่อคนที่ท่านรัก จะได้มีสุขภาพดี มีชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณค่า ไม่ทุกข์ทรมานกับโรคภัยไข้เจ็บและจากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร

8 ความคิดเห็น:

  1. เลิกได้ 15 วันแล้วหงุดหงิดมาก

    ตอบลบ
  2. เลิกใด้7วันสูบอีก2เดือน คาวนี้เอาจริงละ

    ตอบลบ
  3. หยุดมา7วันแล้ว...ร่างกายแข็งแรงขึ้น..หายใจดีขึ้น..หน้าตาใสขึ้น...พอกันทีที่โง่และหลงผิดมานาน...ขอบคุณในคำแนะนำและกำลังใจที่ดีจากทุกท่าน ที่ทำให้ผมมีคุณค่า เลิกทำร้ายร่างกายตนเองอีกต่อไป..ขอบคุณจากใจคับผม...!!!!

    ตอบลบ
  4. ส่งกำลังใจมาช่วยอีกแรง หยุดสูบมาได้ 7 วัน เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก ๆ อย่ากลับไปสูบอีกนะครับ พยายามวิ่งออกกำลังกาย จะช่วยให้ไม่อยากบุหรี่ ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ และรับประทานผักผลไม้เพิ่มขึ้น จะได้ไม่ท้องผูก ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงครับ

    ตอบลบ