"...พระพุทธรูปองค์ประเสริฐนี้ มีเดชานุภาพมาก
ไม่มีชีวิตก็เหมือนมีชีวิต แสดงปาฏิหาริย์ได้
พระพุทธผู้ประเสริฐเมื่อมีชีวิตทรงพระชนม์อยู่ ทรงแสดงปาฏิหาริย์ต่าง ๆ
พระองค์นิพพานแล้ว ทรงประดิษฐานพระศาสนา
อันเป็นประโยชน์แก่ชนทั้งหลายตลอด 5,000 ปี
ในครั้งกระโน้น ผู้ใดบูชาพระพุทธผู้ทรงพระชนม์อยู่
แต่ในครั้งนี้ ผู้ใดบูชาพระพุทธรูปที่บรรจุพระบรมธาตุอันประเสริฐ
เขาเหล่านั้น เมื่อตั้งใจเท่ากัน
บูชาพระพุทธรูปที่บรรจุพระบรมธาตุของพระพุทธอยู่เป็นนิตย์
ก็ย่อมได้ผลเท่ากัน ฯ"
ความเป็นมาของพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกตนั้น ตามตำนานกล่าวว่า ประมาณปี พ.ศ. 500 พระนาคเสนเถระ มีดำริจะสร้างพระพุทธรูปด้วยรัตนะ ให้เป็นที่สักการะบูชาของอินทร์ พรหม เทพยดาและมนุษย์ เพื่อให้ธรรมของพระพุทธองค์รุ่งเรืองและมั่นคง ท้าวสักกะเทวราชหรือพระอินทร์ ทราบความคิดของพระเถระ จึงได้จัดหาแก้วอมรโกฏ (แก้วทำโดยเทวดา) สีเขียวมาถวาย และพระวิษณุกรรมได้แปลงร่างเป็นช่างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยสร้างแก้วมรกตเป็นพระพุทธรูป ปรากฏพระพุทธลักษณะอันงดงามยิ่ง
พระนาคเสนเถระร่วมกับพระอรหันต์ทั้งหลาย และพรหม อินทร์ เทวดา สาธุชน ต่างมีจิตชื่นชมยินดี พากันมาบูชาพระรัตนปฏิมาตลอด 7 คืน 7 วัน พระพุทธรูปอันประเสริฐซึ่งไม่มีชีวิต ก็สำแดงปาฏิหาริย์ต่าง ๆ ปรากฏแสงรัศมีแผ่ซ่านออกจากองค์พระพุทธรูป
ครั้งนั้น พระนาคเสนเถระใคร่จะส่งเสริมให้พระพุทธศาสนารุ่งเรือง จึงได้อธิษฐานอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 7 องค์ เข้าไปประดิษฐานในองค์พระแก้วมรกต รวม 7 แห่ง ได้แก่ พระเมาลี (ผมจุก), พระนลาฏ(หน้าผาก), พระอุระ (อก), พระหัตถ์เบื้องขวา (มือขวา), พระหัตถ์เบื้องซ้าย (มือซ้าย), พระชานุเบื้องขวา (เข่าขวา), และพระชานุเบื้องซ้าย (เข่าซ้าย)
พระแก้วมรกตนี้ พบในพระสถูปเจดีย์ "วัดป่าญะ" (ปัจจุบันคือ วัดพระแก้ว อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย) สถูปเจดีย์ถูกฟ้าผ่าพังลง พบพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทองทั่วทั้งองค์ ต่อมามินาน ปูนที่ลงรักปิดทองกระเทาะออก เห็นเป็นพระพุทธรูปแก้วสีเขียวงามอยู่ภายใน
พระแก้วมรกต |
เหตุที่ต้องพอกปูนเข้าใจว่าเพื่อซ่อนเนื้อแก้วไว้ไม่ให้ใครรู้ เพราะสมัยนั้น พระพุทธสิหิงค์ประดิษฐานอยู่นครเชียงราย พระเจ้าแสนเมืองมา เจ้านครเชียงใหม่ ทำสงครามกับพระเจ้าพรหม เจ้านครเชียงราย เพื่อจะนำพระพุทธสิหิงค์ไปเชียงใหม่ เจ้าครองนครเชียงรายเกรงว่าหากเสียทีในการรบ จะเสียพระแก้วมรกตไปพร้อมกับพระพุทธสิหิงค์ หากจะต้องเสียก็ยอมให้แต่พระพุทธสิหิงค์องค์เดียว จึงหาวิธีอำพรางซ่อนพระแก้วมรกตให้มิดชิด ใครพบก็เห็นเป็นเพียงพระพุทธรูปธรรมดา ไม่ได้ให้ความสนใจ
บ้านเมืองที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต นับตั้งแต่แรกพบในพระเจดีย์ที่เมืองเชียงราย มีดังนี้
บ้านเมืองที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต นับตั้งแต่แรกพบในพระเจดีย์ที่เมืองเชียงราย มีดังนี้
1. เชียงราย.. ตั้งแต่ พ.ศ. -(ไม่ปรากฏ)- ถึง พ.ศ. 1979
2. ลำปาง.. 32 ปี
3. เชียงใหม่.. 84 ปี
4. หลวงพระบาง.. 12 ปี
5. เวียงจันทน์.. 215 ปี
6. ธนบุรี.. 5 ปี (พ.ศ. 2322 ถึง พ.ศ. 2327)
7. กรุงเทพฯ.. พ.ศ.2327 ถึงปัจจุบัน
ในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี ไทยตีเมืองเวียงจันทน์ได้ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เมื่อดำรงพระอิสริยยศสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตจากเวียงจันทน์มาประดิษฐานที่กรุงธนบุรี ในปี พ.ศ. 2322 พร้อมกับ "พระบาง"
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต |
เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ทรงสร้างพระบรมมหาราชวังและพระอารามหลวง คือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระแก้วมรกตจากพระราชวังเดิมธนบุรีมาประดิษฐานในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ณ วันจันทร์ แรม 14 ค่ำ เดือน 4 ปีมะโรง ในปี พ.ศ. 2527 พร้อมทั้งทรงสร้างเครื่องทรงฤดูร้อนและเครื่องทรงฤดูฝนถวาย ส่วนเครื่องทรงฤดูหนาว ต่อมาพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงสร้างถวาย
พระแก้วมรกตจะทรงเครื่องฤดูร้อน จากเดือนมีนาคมถึงวันเข้าปุริมพรรษาเดือนกรกฎาคม จากนั้นจะเปลี่ยนเครื่องทรงเป็นทรงเครื่องฤดูฝน จนถึงเดือนพฤศจิกายน เข้าฤดูหนาว ก็จะเปลี่ยนเครื่องทรงเป็นทรงเครื่องฤดูหนาวเรื่อยไปจนถึงเดือนมีนาคม ตามฤดูกาล
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้ทรงปฏิบัติพระแก้วมรกตโดยเคารพ ดำรัสสั่งให้ช่างเขียนรูปพระแก้วมรกตทรงเครื่องทรงสามฤดูลงในแผ่นผ้าใหญ่ พระราชทานให้แก่ชาวต่างประเทศซึ่งมีไมตรี แต่มิได้เคยมายังกรุงเทพฯ นี้ อยากจะใคร่เห็นพระแก้วมรกตนั้น
ต่อมา พระมหากษัตริย์ทุก ๆ พระองค์ก็ทรงปฏิบัติบูชาพระแก้วมรกตสืบพระราชประเพณีมาโดยตลอด ด้วยเป็นพระปฏิมากรองค์สำคัญ
พระแก้วมรกตจะทรงเครื่องฤดูร้อน จากเดือนมีนาคมถึงวันเข้าปุริมพรรษาเดือนกรกฎาคม จากนั้นจะเปลี่ยนเครื่องทรงเป็นทรงเครื่องฤดูฝน จนถึงเดือนพฤศจิกายน เข้าฤดูหนาว ก็จะเปลี่ยนเครื่องทรงเป็นทรงเครื่องฤดูหนาวเรื่อยไปจนถึงเดือนมีนาคม ตามฤดูกาล
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้ทรงปฏิบัติพระแก้วมรกตโดยเคารพ ดำรัสสั่งให้ช่างเขียนรูปพระแก้วมรกตทรงเครื่องทรงสามฤดูลงในแผ่นผ้าใหญ่ พระราชทานให้แก่ชาวต่างประเทศซึ่งมีไมตรี แต่มิได้เคยมายังกรุงเทพฯ นี้ อยากจะใคร่เห็นพระแก้วมรกตนั้น
ต่อมา พระมหากษัตริย์ทุก ๆ พระองค์ก็ทรงปฏิบัติบูชาพระแก้วมรกตสืบพระราชประเพณีมาโดยตลอด ด้วยเป็นพระปฏิมากรองค์สำคัญ
มีความเชื่อกันว่า "พระแก้วมรกต" และ "พระบาง" ประดิษฐานอยู่ด้วยกันไม่ได้ ?
เมื่อครั้งที่พระแก้วมรกตประดิษฐานอยูที่นครเชียงใหม่ และพระบางอยู่ที่หลวงพระบาง ทั้งสองนครนี้ก็อยู่กันมาด้วยความสงบสุข ครั้นเมื่อพระไชยเชษฐาธิราชเสด็จไปครองหลวงพระบาง ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตจากนครเชียงใหม่ไปประดิษฐานอยู่ที่หลวงพระบางด้วย ก็เกิดเหตุร้ายขึ้นยืดเยื้อกลายเป็นสงคราม ในที่สุดพระไชยเชษฐาธิราชต้องย้ายราชธานีไปอยู่ที่เวียงจันทน์และได้อัญเชิญพระแก้วมรกตกับพระบางไปประดิษฐานที่นครเวียงจันทน์อีก เหตุร้ายต่าง ๆก็ตามไปเกิดที่เวียงจันทน์ ต้องทำสงครามตลอดมา จนพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชถึงกับสิ้นพระชนม์ในสนามรบ
เมื่อครั้งที่พระแก้วมรกตประดิษฐานอยูที่นครเชียงใหม่ และพระบางอยู่ที่หลวงพระบาง ทั้งสองนครนี้ก็อยู่กันมาด้วยความสงบสุข ครั้นเมื่อพระไชยเชษฐาธิราชเสด็จไปครองหลวงพระบาง ได้อัญเชิญพระแก้วมรกตจากนครเชียงใหม่ไปประดิษฐานอยู่ที่หลวงพระบางด้วย ก็เกิดเหตุร้ายขึ้นยืดเยื้อกลายเป็นสงคราม ในที่สุดพระไชยเชษฐาธิราชต้องย้ายราชธานีไปอยู่ที่เวียงจันทน์และได้อัญเชิญพระแก้วมรกตกับพระบางไปประดิษฐานที่นครเวียงจันทน์อีก เหตุร้ายต่าง ๆก็ตามไปเกิดที่เวียงจันทน์ ต้องทำสงครามตลอดมา จนพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชถึงกับสิ้นพระชนม์ในสนามรบ
หอพระแก้ว นครเวียงจันทน์ สร้างตั้งแต่สมัยพระไชยเชษฐาธิราช บูรณะขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2479 |
ในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้อัญเชิญพระแก้วมรกตและพระบางมากรุงธนบุรี ก็ทำให้กรุงธนบุรีเกิดจลาจล ต่อมาเมื่อสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกปราบดาภิเษกเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระเจ้าเวียงจันทน์ซึ่งเป็นประเทศราชได้มาถวายดอกไม้ทองเงินและเครื่องราชบรรณาการ เมื่อจะกลับ ได้กราบบังคมทูลขอ "พระบาง" กลับไปเวียงจันทน์ด้วย พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 1 ทรงเห็นว่า พระบางมาอยู่กรุงเทพฯ ก็ไม่เห็นมีประโยชน์อะไร อีกทั้งคงได้ทรงทราบเรื่องพระแก้วมรกตและพระบางว่าประดิษฐานอยู่ด้วยกันไม่ได้ เมื่อชาวเวียงจันทน์เขารักใคร่หวงแหน จึงพระราชทาน "พระบาง" คืนไปไว้นครเวียงจันทน์ตามประสงค์
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เจ้าอนุวงศ์ผู้ครองนครเวียงจันทน์คิดกบฏ เมื่อเจ้าพระยาบดินทร์เดชา ไปปราบกบฏราบคาบ ได้อัญเชิญ"พระบาง" ลงมาถวาย พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 คงจะทรงทราบเรื่องอยู่บ้าง จึงไม่ทรงรับพระบางไว้ในพระราชวัง โปรดให้ไปไว้ที่วัดจักรวรรดิราชาวาส (วัดสามปลื้ม) แทน
พระบางอยู่วัดจักรวรรดิราชาวาสมาจนถึงรัชกาลที่ 4 เกิดฝนแล้งข้าวแพงติด ๆ กันหลายปี ผู้คนพากันสงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะพระแก้วมรกตกับพระบางมาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ เป็นแน่ จึงได้เกิดเหตุร้ายเช่นนี้ขึ้น ได้มีผู้นำความขึ้นกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ไม่โปรดที่จะให้คนคิดเห็นไปในทางไม่ดีเช่นนั้น เมื่อเจ้านครหลวงพระบางมาถวายดอกไม้ทองเงินและเครื่องราชบรรณาการตามธรรมเนียมเมืองประเทศราช จึงพระราชทาน "พระบาง" กลับไปไว้ที่หลวงพระบางดังเดิม
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เจ้าอนุวงศ์ผู้ครองนครเวียงจันทน์คิดกบฏ เมื่อเจ้าพระยาบดินทร์เดชา ไปปราบกบฏราบคาบ ได้อัญเชิญ"พระบาง" ลงมาถวาย พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 คงจะทรงทราบเรื่องอยู่บ้าง จึงไม่ทรงรับพระบางไว้ในพระราชวัง โปรดให้ไปไว้ที่วัดจักรวรรดิราชาวาส (วัดสามปลื้ม) แทน
พระบางอยู่วัดจักรวรรดิราชาวาสมาจนถึงรัชกาลที่ 4 เกิดฝนแล้งข้าวแพงติด ๆ กันหลายปี ผู้คนพากันสงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะพระแก้วมรกตกับพระบางมาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ เป็นแน่ จึงได้เกิดเหตุร้ายเช่นนี้ขึ้น ได้มีผู้นำความขึ้นกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ไม่โปรดที่จะให้คนคิดเห็นไปในทางไม่ดีเช่นนั้น เมื่อเจ้านครหลวงพระบางมาถวายดอกไม้ทองเงินและเครื่องราชบรรณาการตามธรรมเนียมเมืองประเทศราช จึงพระราชทาน "พระบาง" กลับไปไว้ที่หลวงพระบางดังเดิม
เหรียญพระแก้วมรกต ที่ระลึกฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 150 ปี พ.ศ. 2475 หลังรูปยันต์กงจักร |
เหรียญพระแก้วมรกต ที่ระลึกฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. 2525 |
แต่เดิมเมื่อมีพระราชพิธีใหญ่ ๆ เช่น พระราชพิธีตรุษ ก็จะอัญเชิญพระแก้วมรกตไปประดิษฐาน ณ มณฑลพิธี เมื่อคราวอหิวาตกโรคระบาดในสมัยรัชกาลที่ 2 มีคนล้มตายเป็นจำนวนมาก ได้จัดให้มีพระราชพิธีอาพาธพินาศโดยอัญเชิญพระแก้วมรกตออกแห่ด้วย ต่อมาพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 มีพระราชดำริว่าพระแก้วมรกตเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง มีน้ำหนักมาก มีค่าหาประมาณมิได้ การอัญเชิญไปมาย่อมเสี่ยงอันตราย จึงไม่โปรดให้เคลื่อนย้าย
มีประเพณีที่เกี่ยวเนื่องกับองค์พระแก้วมรกตอยู่หลายอย่าง เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง งานพระราชพิธีส่วนใหญ่จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดขึ้น ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เช่น พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา พระราชพิธีฉัตรมงคล พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา การตั้งสมณศักดิ์และสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช พระราชพิธีตรึงหมุดธงชัยเฉลิมพล ฯลฯ
มีประเพณีที่เกี่ยวเนื่องกับองค์พระแก้วมรกตอยู่หลายอย่าง เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง งานพระราชพิธีส่วนใหญ่จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดขึ้น ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เช่น พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา พระราชพิธีฉัตรมงคล พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา การตั้งสมณศักดิ์และสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช พระราชพิธีตรึงหมุดธงชัยเฉลิมพล ฯลฯ
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ |
ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ เคยปรารภถึงความมหัศจรรย์ของพระแก้วมรกตว่า พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ว่างจากพระอริยบุคคล พระอริยบุคคลมีในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ฉิบหายด้วยภัยแห่งสงคราม
อ้างอิง ภาพ คำบรรยายภาพ และข้อความบางส่วน คัดจากหนังสือ "พระแก้วมรกต"
ท่านอาจารย์สุจิตต์ วงษ์เทศ ศิลปวัฒนธรรมฉบับพิเศษ สำนักพิมพ์มติชน
อ้างอิง ภาพ คำบรรยายภาพ และข้อความบางส่วน คัดจากหนังสือ "พระแก้วมรกต"
ท่านอาจารย์สุจิตต์ วงษ์เทศ ศิลปวัฒนธรรมฉบับพิเศษ สำนักพิมพ์มติชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น